ประวัติศาสตร์ของโนโบริเบ็ตสึ

จนถึงยุคเอโดะ (กลางศตวรรษที่ 19)

หุบเขาจิโกคุดานิ โนโบริเบ็ตสึ
ไดโมคุอิชิและรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสลักด้วยมีดนาตะ
ปี 2209นักบวชเอ็นคูสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมด้วยมีดนาตะ
เป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักด้วยมีดนาตะเพียงเล่มเดียวโดยนักบวชเอ็นคูแห่งมิโนโนะคุนิ (ปัจจุบันคือทางตอนใต้ของจังหวัดกิฟุ) ที่ขณะเดินทางท่องเที่ยวอยู่ทางตอนใต้ของฮอกไกโด ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในศาลที่มุมหนึ่งของหอสังเกตการณ์โนโบริเบ็ตสึจิโกคุดานิ
ราวปี 2328โมกามิ โทคุไนมาเยือนโนโบริเบ็ตสึและบันทึกไว้ใน “เอโสะ โซชิ”
ราวปี 2388มัตสึอุระ ทาเคชิโรแวะที่โนโบริเบ็ตสึออนเซ็นเป็นครั้งแรก
นักสำรวจมัตสึอุระ ทาเคชิโร ผู้ที่ตั้งชื่อให้กับฮอกไกโด ได้มาเยือนโนโบริเบ็ตสึออนเซ็นและเขียนเกี่ยวกับเสน่ห์ของมันไว้ในหนังสือของเขา
ปี 2400โอคาดะ ฮัมเบปรับปรุงโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น
โอคาดะ ฮัมเบ พ่อค้าจากโอมิ (ปัจจุบันคือจังหวัดชิงะ) ที่มาทำเหมืองกำมะถันในหุบเขาจิโกคุดานิได้สร้างกระท่อมใกล้บ่อน้ำพุร้อนสำหรับคนงานด้วยเงินตัวเอง
ปี 2401ทาคิโมโตะ คินโซเปิดให้บริการโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น
ทาคิโมโตะ คินโซหรือเป็นที่รู้จักในนาม “บิดาแห่งน้ำพุร้อนบำบัด” เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างที่พักใกล้ออนเซ็น (ปัจจุบันคือไดอิจิ ทาคิโมโตะคัง) ด้วยเงินตัวเอง พัฒนาถนนสายใหม่ (เส้นทางปัจจุบัน) และวางรากฐานสำหรับปัจจุบัน

ทาคิโมโตะ คินโซคือใคร?

เขาเป็นช่างไม้ในเอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) ได้รับคำสั่งจากโชกุนให้ข้ามไปที่เอโสะและได้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างไปรษณีย์ในโฮโรเบ็ตสึ ขณะนั้น ซาตะผู้เป็นภรรยาของเขากำลังทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนัง เมื่อเขาได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น คินโซก็ฝ่าเข้าไปในเส้นทางบนภูเขา สร้างกระท่อมเล็กๆ เพื่อรักษาภรรยาของเขาที่นั่น และเริ่มการบำบัดด้วยน้ำพุร้อน จนในที่สุด โรคผิวหนังของซาตะก็หาย เขาจึงได้ขอใบอนุญาตเป็นผู้ดูแลบ่อน้ำพุร้อนและสร้างที่พักใกล้บ่อน้ำพุร้อนขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ประสิทธิภาพของมัน

ปี 2404สร้างอุโบสถยาคุชิเนียวไรโด
กล่าวกันว่ามีขุนนางตระกูลนัมบุที่เจ็บตาเนื่องจากโดนดาบบาดขณะที่กำลังทำเหมืองกำมะถันในขณะนั้น ได้ล้างตาในออนเซ็นที่ผุดขึ้นมาจากใต้อุโบสถแล้วตากลับหายดี สถานที่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปยาคุชิเนียวไรที่ขุนนางท่านนั้นได้ถวายมา

ยุคเมจิ (ครึ่งหลังศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20)

ปี 2414นักบวชนิชชินเขียนศิลาจารึกด้วยหมึก
ปี 2424คินโซสร้างถนนสายใหม่ที่ตัดผ่านหุบเขาโมมิจิดานิด้วยเงินตัวเองเพื่อพัฒนาออนเซ็น
ปี 2429ฮิโนะ ไอกิค้นพบคารุรุสุออนเซ็น
ฮิโนะ ไอกิ ขณะนั้นทำงานเป็นเสมียนที่สำนักงานเขตมูโรรัน ได้ค้นพบแหล่งกำเนิดน้ำพุร้อนขณะที่กำลังสำรวจตอนบนของแม่น้ำโนโบริเบ็ตสึเพื่อเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของทหารที่ทำการเกษตร
ปี 2433สร้างบ่อออนเซ็นในไดอิจิ ทาคิโมโตะคัง
ปี 2440ฮิโนะ คิวคิตสึเปิดให้บริการคารุรุสุออนเซ็น
ฮิโนะ คิวคิตสึ (ลูกบุญธรรมของฮิโนะ ไอกิ) ค้นพบออนเซ็นอีกครั้ง เมื่อได้ลองดื่มน้ำพุร้อนจากออนเซ็นดู ก็พบว่าตนเองหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง จึงเกิดความสนใจ แล้วสร้างเส้นทางจากโฮโรเบ็ตสึไปยังออนเซ็น และเปิดให้บริการออนเซ็น
ปี 2444ถนนสายใหม่ระหว่างโนโบริเบ็ตสึออนเซ็นและโนโบริเบ็ตสึเสร็จสมบูรณ์ และกว้างพอให้รถเทียมม้าที่ลากโดยม้า 2 ตัววิ่งผ่านได้
ปี 2446จิริ มาชิโฮะเกิด
ปี 2448คารุรุสุออนเซ็นกลายเป็นสถานพักฟื้นของโรงพยาบาลทหารอาซาฮิกาวะ
ถูกใช้เป็นสถานที่พักฟื้นสำหรับทหารผ่านศึกในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ทำให้ชื่อเสียงของคารุรุสุออนเซ็นและโนโบริเบ็ตสึออนเซ็นยิ่งกระจายออกไปจนกลายเป็น “น้ำพุร้อนชื่อดัง”
คารุรุสุออนเซ็น
คารุรุสุออนเซ็น

สมัยไทโช-โชวะ (ศตวรรษที่ 20)

เมืองโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น
แผ่นพับคารุรุสุออนเซ็น (สมัยไทโช)
เมืองโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น
ปี 2458ก่อตั้งบริษัท Noboribetsu Onsen Kido Co., Ltd.
เปิดเส้นทางรถรางม้าลาก
ฟูจิซากิ โคทาโรสร้างไร่วาซาบิ
ปี 2461เปิดเส้นทางรถจักรไอน้ำและรถไฟรางเบา
ปี 2467กำหนดให้ป่าดึกดำบรรพ์แห่งโนโบริเบ็ตสึเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ
ปี 2468เปิดเส้นทางรถไฟฟ้า
ปี 2477สวนสนุกโคโดโมะ โนะ คูนิเปิดทำการ
ปี 2478โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยหลวงฮอกไกโดสาขาโนโบริเบ็ตสึเปิดทำการ
ปี 2481สร้างโรงแรมโนโบริเบ็ตสึ แกรนด์ โฮเต็ล
ปี 2483สถานพักฟื้นทหารผ่านศึกกองทัพบกสร้างเสร็จ
ปี 2486ทาคาฮามะ เคียวชิแต่งกลอน (ทางเดินฟูนามิยามะ)
ปี 2492กำหนดให้ชิคตสึ-โทยะเป็นอุทยานแห่งชาติ
ปี 2497จักรพรรดิโชวะเสด็จเยือนโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น
ปี 2500กำหนดให้คารุรุสุออนเซ็นเป็นพื้นที่ออนเซ็นเพื่อการพักฟื้นแห่งชาติ
ปี 2501เปิดฟาร์มหมีโนโบริเบ็ตสึ
โนโบริเบ็ตสึออนเซ็นเปิดให้บริการมาแล้ว 100 ปี
ปี 2507จัดเทศกาลนรกครั้งที่ 1
วันที่จัด “เทศกาลนรกโนโบริเบ็ตสึ” ครั้งที่ 1 เมืองโนโบริเบ็ตสึออนเซ็นที่เคยเงียบสงบกลับครึกครื้นไปด้วยเสียงกลองก้องกังวาน นักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าร่วม “ขบวนแห่ยักษ์” และ “การเต้นระบำยักษ์” ทำให้เมืองโนโบริเบ็ตสึออนเซ็นคึกคักเป็นอย่างมาก
ปี 2524ปิดพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเมืองโนโบริเบ็ตสึ

ยุคเฮเซ (ปลายศตวรรษที่ 20 ถึงต้นศตวรรษที่ 21)

ปี 2533เปิดอุทยานทางทะเลโนโบริเบ็ตสึ
ปี 2535เปิดโนโบริเบ็ตสึ ดาเตะ จิไดมุระ
ปี 2547หุบเขาจิโกคุดานิได้รับเลือกเป็นมรดกฮอกไกโด
ปี 2550เปิดศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโนโบริเบ็ตสึ คันโตเรร่า
ปี 2551สวนสาธารณะเซ็นเก็นเสร็จสมบูรณ์
สร้าง “สวนสาธารณะเซ็นเก็น” บนพื้นที่ที่เคยเป็น “โฮเต็ล โนโบริเบ็ตสึ พาราไดซ์” เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 150 ของการเปิดให้บริการโนโบริเบ็ตสึออนเซ็น ภายในสวนจะมีน้ำพุร้อน 80 องศาพุ่งขึ้นสูง 8 เมตรทุกๆ 3 ชั่วโมง
ปี 2556จัดเทศกาลนรกครั้งที่ 50 เป็นเวลา 3 วัน
ติดตั้งกระบองเหล็ก 9 เล่มของยักษ์ผู้พิทักษ์น้ำพุร้อนที่สวนสาธารณะเซ็นเก็น
ปี 2558ฮอกไกโดชินคันเซ็นเปิดทำการ
ป้อมตำรวจโนโบริเบ็ตสึออนเซ็นย้ายที่ตั้ง
ปี 2559บ่อน้ำพุร้อนไทโช จิโกคุปะทุ (ต่อเนื่องจนถึงปี 2560)
ปี 2560เปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมส่งเสริมการประชุมท่องเที่ยวระหว่างประเทศโนโบริเบ็ตสึ (นิติบุคคลทั่วไป)
บันทึกจำนวนผู้เข้าพักที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่น 510,000 คน
บรรลุข้อตกลงความร่วมมือและประสานงานกับหอการค้าและอุตสาหกรรมโนโบริเบ็ตสึ
ปี 2561แผ่นดินไหวที่อิบุริตะวันออก
บรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนมิตรภาพการท่องเที่ยวกับสมาคมพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเมืองไท่จง ประเทศไต้หวัน
บรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนมิตรภาพการท่องเที่ยวออนเซ็นกับสมาคมการท่องเที่ยวออนเซ็นเมืองไท่จง ประเทศไต้หวัน
ปี 2563เทศกาลบ้านเกิด “ดอกไม้ไฟของเหล่ายักษ์” ได้รับ “รางวัลนายกรัฐมนตรี” ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่
เปิด “อูโปโปย” พื้นที่สัญลักษณ์แห่งการอยู่ร่วมกันของต่างชาติพันธุ์
ปี 2564จำนวนผู้เข้าพักลดลงต่ำกว่า 400,000 คนเป็นครั้งแรกในรอบ 72 ปีนับตั้งแต่ปี 2492 (ปีโชวะที่ 24)
บูรณะเอ็นมาไดโอ/เอ็นมาโด
อนุสาวรีย์เปิดให้บริการครบรอบ 100 ปี คารุรุสุออนเซ็น
เทศกาลนรกโนโบริเบ็ตสึ
พิธีเปิดสวนสาธารณะเซ็นเก็น
พิธีลงนามร่วมกับเมืองไท่จง
PAGE TOP